เผยเคล็ดลับพิชิตทุน
 ใครที่สนใจสมัครทุนอีราสมุส มุนดุสในอนาคต และอยากรู้เทคนิควิธีในการพิชิตทุนนี้ให้ประสบผลสำเร็จ ทีมงานการศึกษาวันนี้ คว้าตัวรุ่นพี่นักเรียนทุนปีล่าสุด (ปี 2011) มาพูดคุยกันแบบเจาะลึก ใครที่อยากได้ทุนนี้  ไม่ควรพลาดติดตาม  

       “เจมมี่” นายชัชพล วิทวัสการเวช นักเรียนทุนอีราสมุส มุนดุส ระดับปริญญาโทปีล่าสุด เปิดใจถึงการได้รับทุนนี้ว่า ผมได้ทุนเรียนต่อปริญญาโทในสาขา International Management of Information Technology ที่ประเทศฝรั่งเศส  ฟินแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ที่ผ่านมาผมจบปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะมาสมัครทุนนี้ผมทำงานได้ประมาณ 2 ปี และมีความรู้สึกว่าอยากเติมเต็มความรู้ในด้านอื่นให้กับตัวเองบ้าง พอดีได้มารู้จักกับทุนอีราสมุส มุนดุส ซึ่งเขาให้ทุนในสาขา International Management of Information Technology  ด้วย ก็เลยลองสมัครดู ในสาขานี้จะเรียนเกี่ยวกับธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจะเรียนเกี่ยวกับไอที และจะมีหนึ่งเทอมที่จะเรียนเกี่ยวกับการบูรณาการความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนผ่านการทำโครงงาน ข้อดีของทุนนี้คือ เป็นทุนเต็มจำนวนและไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ ซึ่งตรงกับความต้องการของตัวผมเองด้วย


       ก่อนที่จะสมัครทุนนี้ อย่างแรกเลยเราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าอยากเรียนอะไร แล้วค่อยหาหลักสูตรที่ตรงกับความสนใจของเรา พอได้หลักสูตรที่ต้องการเรียนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ เราต้องรู้ว่าเกณฑ์การพิจารณาของคณะกรรมการคืออะไร อันนี้สำคัญมาก ซึ่งผมหาข้อมูลตรงนี้จากรุ่นพี่ที่เคยได้ทุนนี้มาก่อน ความรู้ที่ได้จากรุ่นพี่ผมได้นำมาใช้ในการเขียนใบสมัครด้วย นอกจากนี้เรายังต้องเขียน motivation letter ประกอบการสมัครด้วย ผมคิดว่าวัตถุประสงค์ในการเรียนของผมค่อนข้างตรงกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ประกอบกับผมทำงานเกี่ยวกับด้านไอทีด้วย ก็เลยลงรายละเอียดไปว่ามีความรู้ทางด้านนี้อยู่แล้ว และก็มีความคิดที่จะทำวิทยานิพนธ์ทางด้านนี้ด้วย แล้วก็บอกหัวข้อและรายละเอียดคร่าว ๆ เขาไป ทำให้ใบสมัครของผมดูหนักแน่น เพราะเรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร และเราจะมาเรียนเพื่ออะไร ซึ่งผมสามารถตอบโจทย์ตรงตามที่ทางหลักสูตรและคณะกรรมการต้องการได้
       ขั้นตอนในการสมัคร ต้องเริ่มดูจากตัวหลักสูตรก่อน เพราะว่าเราเริ่มจากตัวประเทศไม่ได้  หลังจากนั้นผมก็เลือกหลักสูตรที่สนใจเรียนแล้วเปิดเว็บไซต์ดูรายละเอียดหลักสูตรว่าต้องไปเรียนที่ไหน กี่เดือน กี่ปี แล้วจึงลงมือสมัคร จริง ๆ แล้วเราสามารถเลือกเรียนได้ 8 สาขาวิชา แต่ไม่สามารถเลือกประเทศที่จะไปเรียนได้ ซึ่งหลักสูตรที่ผมได้ทุนไปเรียนต่อต้องไปเรียนที่ประเทศฝรั่งเศส  ฟินแลนด์  และเนเธอร์แลนด์ จุดเด่นของฝรั่งเศสเขาจะเด่นในเรื่องของธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ ส่วนฟินแลนด์เขาจะโด่งดังทางด้านไอที ในขณะที่เนเธอร์แลนด์เขาก็จะดังทางด้านไอทีเช่นกัน แต่จะเป็นการบูรณาการความรู้ระหว่างไอทีกับธุรกิจมากกว่า
       ทุนนี้ไม่มีการสอบข้อเขียน แต่เขาจะพิจารณาจากคะแนน GRE ประกอบการคัดเลือก ในส่วนของการสัมภาษณ์แทบจะเหมือนกับที่เขียนในใบสมัครเลย ตอนเตรียมตัวผมจะพยายามตั้งคำถามทั้งหมดที่คิดว่าคณะกรรมการจะถาม แล้วเตรียมฟิตซ้อมคำตอบไว้ให้ดี อย่างคำถามเช่น ทำไมคุณถึงอยากไปเรียน ถ้าคุณเรียนจบแล้วคุณจะเอาสิ่งที่คุณเรียนมาไปประยุกต์ใช้อย่างไรบ้าง ถ้าเลือกคุณ แล้วคุณจะมีประโยชน์อะไรกับชั้นเรียนบ้าง ฯลฯ ตอนที่ผมสัมภาษณ์เสร็จ ผมค่อนข้างมั่นใจถึง 80 เปอร์เซ็นต์ว่าน่าจะได้ทุนนี้ เพราะว่าคนที่สัมภาษณ์ผมเขาเป็นหัวหน้าหลักสูตร เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่าเจอกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็เลยทำให้ผมมั่นใจว่าน่าจะได้ทุนนี้
       ผมจะบินไปเรียนต่อในวันที่ 15 ส.ค. นี้ แต่หลักสูตรจะเปิดเรียนในวันที่ 18 ส.ค. สำหรับมหาวิทยาลัยที่เขาเลือกให้เราไปเรียนจะเป็นมหาวิทยาลัยที่เด่นทางด้านนั้น ๆ อยู่แล้ว สิ่งที่ผมเรียนเพิ่มเติมก่อนไปคือภาษาฝรั่งเศส เพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อมกับการเรียนที่นั่น ระหว่างที่เรียนอยู่ที่นั่น ถ้ามีเวลาว่างผมวางแผนเอาไว้ว่าจะท่องเที่ยวให้ครบทุกประเทศในแถบนั้น อยากขึ้นไปบนหอไอเฟลแล้วมองลงมาว่าภาพที่เห็นจะเป็นอย่างไรบ้าง  อย่างที่ฟินแลนด์ เขาจะมีหมู่บ้านซานตาครอส ผมต้องหาโอกาสไปเที่ยวให้ได้เลย การที่ผมได้ไปเรียนในหลายประเทศ นอกจากจะได้รับความรู้แล้ว ผมยังได้ประสบการณ์ชีวิตที่ดี ๆ อีกด้วย ซึ่งผมจะได้ไปเรียนประเทศละประมาณ 6 เดือน ข้อเสียก็อาจจะมีบ้างในเรื่องของความต่อเนื่องในการเรียน  แต่ผมคิดว่ามหาวิทยาลัยเขาน่าจะมีการพูดคุยกันแล้วว่าจะวางแผนการเรียนให้กับคนที่ได้ทุนนี้อย่างไรบ้าง ซึ่งหลักสูตนี้มีมาเป็นปีที่ 5 หรือปีที่ 6 แล้ว ผมจึงค่อนข้างมั่นใจในเรื่องของคุณภาพวิชาการที่นั่น
       สุดท้ายนี้ ผมอยากแนะนำเพื่อน ๆ หรือน้อง ๆ ที่อยากได้ทุนนี้บ้างว่า อย่างแรกเลยเราต้องตั้งเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจนเสียก่อน ต้องรู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร และก็เริ่มต้นจากเป้าหมายนั้นเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่เราตั้งเอาไว้ อย่างที่สองคือ ต้องอดทน เพราะไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ทุนเขาจ่ายให้เราเต็มจำนวนมูลค่าเป็นล้าน การแข่งขันย่อมสูงเป็นธรรมดา เพราะต้องแข่งขันกับคนทั่วโลก ฉะนั้น ต้องอดทน ผมเชื่อว่าเด็กไทยเรามีความสามารถสู้กับนักเรียนต่างชาติได้ แต่ที่เราสู้เขาไม่ได้คือเรื่องของภาษาเท่านั้น เป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ทุกคนครับ อนาคตผมยังไม่มีแผนการที่ชัดเจน ลึก ๆ แล้วก็สนใจเรียนต่อปริญญาเอกเหมือนกัน แต่อีกใจก็อยากกลับมาทำงานก่อน ตอนนี้ผมคิดว่าอยากจะตั้งใจเรียนให้ดีก่อน และพอได้ไปเรียนที่นั่นแล้วอาจจะมีภาพในหัวที่ชัดเจนมากขึ้นว่าอยากจะทำอะไรต่อไป
       ด้าน “น้องวิวี” น.ส.ธมนวรรณ พลาลำ นักเรียนทุนแลกเปลี่ยนอีราสมุส มุนดุส ปีล่าสุด เปิดใจเช่นกันว่า วิวีได้ทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นเวลา 6 เดือน ที่ University of Ljubljana ประเทศสโลวีเนีย  ที่เลือกไปเรียนที่นี่ เพราะเขามีสอนด้าน Chemical Engineering ด้วย เพราะวิวีเรียนอยู่ชั้นปี 3 ด้าน Chemical Engineering ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อยู่แล้ว มหาวิทยาลัยที่วิวีเลือกไปเรียนมีเพื่อนของรุ่นพี่เรียนอยู่ที่นั่นด้วย แต่ว่าเขาจะเรียนทางด้าน Lab Chemistry อย่างน้อยก็มีคนที่รู้จักเรียนอยู่ที่นี่ด้วย รู้สึกอุ่นใจ ก็เลยตัดสินใจไปเรียนที่นี่ และประเทศสโลวีเนียก็เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงด้วย
       ตอนแรกที่สมัครทุนนี้ เขาจะให้เลือกที่เรียน 2 อันดับ อันดับแรกวิวีเลือกที่ลูบลิยานา (Ljubljana) เพราะว่าที่นี่เป็นเมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย และก็ตั้งอยู่ที่ยุโรปกลางด้วย ติดกับประเทศอิตาลีและโครเอเชีย ใคร ๆ ก็อยากไปที่นี่กันอยู่แล้ว ถ้ามีเวลาว่างวิวีต้องไปเที่ยวอิตาลีแน่นอน หลังจากประกาศผลปรากฏว่าวิวีได้ไปเรียนที่นี่สมความตั้งใจ วิวีจะเดินทางไปเรียนต่อประมาณเดือนกันยายน ตอนนี้ทางหลักสูตรเขาส่งตารางเรียนมาให้แล้ว โดยให้เราเลือกลงรายวิชาที่จะเรียนอย่างน้อย 20 เครดิต โดยเอาวิชาที่เลือกเรียนที่นั่นมาเทียบกับรายวิชาที่เรียนอยู่ที่ธรรมศาสตร์ พยายามเลือกรายวิชาให้เหมือนกันจะได้สามารถโอนหน่วยกิตกลับมาได้ ซึ่งวิวีได้ให้อาจารย์ที่คณะช่วยเลือกรายวิชาให้ค่ะ
       ตอนสมัครทุนนี้เขาให้เขียน Essay ประกอบการสมัครด้วย ว่าทำไมเราถึงอยากไปเรียนต่อที่นั่น ตอนแรกก็มีกังวลบ้างที่ต้องมานั่งเขียนภาษาอังกฤษ แต่โชคดีที่วิวีได้เพื่อนที่เก่งภาษาอังกฤษช่วยดูให้ ก็ผ่านมาได้ด้วยดี จำได้ว่าตอนที่สมัครทุนนี้เหลือเวลาอีกแค่สองสัปดาห์ก็จะปิดรับสมัครแล้ว ต้องทำเอกสารทุกอย่างให้เสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์ เพราะถ้าเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมายังเหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ให้แก้ไขได้
       ทุนนี้ไม่มีการสอบสัมภาษณ์ เขาจะพิจารณาจากใบสมัครที่เราเขียนไปเท่านั้น แล้วต้องมีหนังสือรับรองจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยประกอบการสมัครด้วย ช่วงนี้วิวีกำลังเตรียมเอกสารในการเดินทางค่ะ สิ่งที่วิวีคาดหวังว่าจะได้รับจากการเดินทางไปเรียนในครั้งนี้ คือ อยากได้เพื่อน อยากได้ภาษา และก็อยากเที่ยวด้วยค่ะ เพราะว่าโอกาสดี ๆ อย่างนี้คงไม่มีอีกแล้ว เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีที่ต้องรีบคว้าเอาไว้ ตอนแรกเพื่อนบอกว่าอย่าไปเลย ตัวคนเดียว เป็นผู้หญิงด้วย  สมัครทุนนี้ปีหน้าก็ได้ วิวีบอกกับเพื่อนว่าถ้าฉันสมัครปีหน้า เขาจะเลือกฉันอีกไหม สุดท้ายวิวีก็เลยตัดสินใจไปทุนแลกเปลี่ยนในครั้งนี้
       สุดท้ายอยากฝากถึงเพื่อน ๆ หรือรุ่นน้อง ๆ ว่า ถ้ามีโอกาสสมัครทุนก็ควรสมัครซะ เตรียมตัวเองให้พร้อม พยายามฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษบ่อย ๆ และควรศึกษาข้อมูลในสิ่งที่เราอยากเรียนเยอะ ๆ อย่างเวลาที่เขียนใบสมัคร หรือเขียน Essay ประกอบการสมัคร ก็ควรเขียนดี ๆ เขียนแบบที่ว่าเขาต้องเลือกเราแน่ ๆ วิวีวางแผนอนาคตเอาไว้ว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากจะได้ทุนไปเรียนต่ออีก ถ้าเรียนจบแล้วก็อยากจะเรียนต่อปริญญาโทเลย คงจะเรียนต่อทางด้านปิโตรเลียมที่ประเทศนอร์เวย์ เพราะว่ามีรุ่นพี่ที่รู้จักเขาทำงานอยู่ที่ประเทศนอร์เวย์ค่ะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น